ไรแดง เป็นศัตรูพืชที่สำคัญของทุเรียน โดยเฉพาะ ไรแดงแอฟริกัน ที่สร้างความเสียหายต่อการผลิตทุเรียนอย่างมาก ไรแดงเหล่านี้จะดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบพืช ทำให้เกิดจุดสีขาวซีดและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ถ้าหากมีการระบาดอย่างรุนแรง จะทำให้ใบร่วงหล่นและกระทบต่อผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญ
วงจรชีวิตไรแดง
ไรแดงมีวงจรชีวิตที่ประกอบด้วย 4 ระยะหลัก
1. ระยะไข่ ไข่จะถูกวางใต้เส้นใยที่ไรสร้างขึ้น ใต้ใบพืช
2. ระยะตัวอ่อน ตัวอ่อนมีขา 3 คู่และจะลอกคราบเพื่อเข้าสู่ระยะถัดไป
3. ระยะวัยรุ่น หลังจากลอกคราบ จะมีขา 4 คู่และเติบโตจนเป็นตัวเต็มวัย
4. ระยะตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัยเพศเมียสามารถวางไข่ได้มากกว่า 100 ฟองตลอดอายุขัย
การระบาด
ไรแดงมักระบาดในช่วงฤดูแล้งหรือช่วงที่ฝนทิ้งช่วง โดยจะอยู่ใต้ใบและกระจายไปตามลำต้นเมื่อประชากรหนาแน่น การระบาดนี้จะส่งผลให้ทุเรียนผลผลิตลดลง
การดื้อยา
การใช้สารเคมีซ้ำๆ อาจทำให้ไรแดงเกิดการดื้อยา ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการกำจัดลดลง จำเป็นต้องมีการสลับใช้สารกลุ่มต่างๆ ทุกรอบการพ่นยาเพื่อลดปัญหานี้
กลุ่มยาในการควบคุมไรแดง
การใช้สารเคมีหลายกลุ่มร่วมกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมไรแดง โดยกลุ่มยาที่นิยมใช้ ได้แก่
1. ไพริดาเบน (Pyridaben) - อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
2. เฟนบูทาทินออกไซด์ (Fenbutatin-oxide) - อัตรา 10 -20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
3. เตตระไดฟอน (Tetradifon) - อัตรา 50 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
4. เฟนไพรอกซิเมต (Fenpyroximate) - อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
5. เฟนโพรฟาทริน (Fenpropathrin) - อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
6. ไปเฟนทริน (Bifenthrin) - อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
7. ไฟริฟรอกซีเฟน (Pyriproxyfen) - อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
การป้องกันและควบคุม
• ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ: ควรหมั่นตรวจดูใบทุเรียนในช่วงที่อากาศร้อนแห้ง
• พ่นสารกำจัดไร: เมื่อพบการระบาด ในระยะตัวอ่อน ควรพ่นสารตามอัตราที่แนะนำ
• ใช้ศัตรูธรรมชาติ: เช่น ด้วงเต่า Stethorus punctillum และไรตัวห้ำ Amblyseius longispinosus เพื่อช่วยควบคุมประชากรไรแดง
สรุป
การจัดการไรแดงในทุเรียนต้องอาศัยการตรวจสอบและใช้มาตรการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้สารเคมีที่หลากหลาย และการสลับกลุ่มยาอย่างเหมาะสม จะช่วยลดปัญหาการดื้อยาและเพิ่มผลผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพสูงในระยะยาว
เป็นเพื่อนกับปุ๋ยตราหญิงงาม
ได้รับข่าวสาร
และโปรโมชันก่อนใคร